วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

วิธีลดต้นขา แบบง่ายๆที่ตุณก็ทำเองที่บ้านได้

วิธีลดต้นขา


   ซึ่งเราจะได้เห็นจากผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ออกมาเพื่อความสวยงามของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าเครื่องสำอาง ฯลฯ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรัผู้หญิง คือ รูปร่าง ซึ่งรูปร่างของแต่ละบุคคลก็มีความแตกต่างกันออกไป บางคนมีรูปทรงอย่างหุ่นแอปเปิ้ล

บางคนรูปร่างทรงลูกแพร์ ซึ่งแต่ละรูปร่างก็จะมีเทคนิคการลดสัดส่วนแตกต่างกันออกไป อวัยวะส่วนหนึ่งที่เป็นปัญหาด้านความอ้วนให้แก่ผู้หญิงที่สำคัญอีกส่วนหนึ่ง คือ ต้นขา เพราะการที่มีต้นขาใหญ่นั้น ทำให้ผู้หญิงมีความไม่มั่นใจในตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่เสื้อผ้า ทำให้ตนนั้นใส่เสื้อผ้าไม่สวย แม้แต่เป็นผลกระทบถึงทางด้านจิตใจไปเลยทีเดียว ผลตามมาอีก

อย่างก็คือ ในรายที่มีต้นขาใหญ่มากๆนั้น สามารถทำให้เกิดความอับชื้นในบริเวณขาหนีบด้านในจนทำให้สามารถเกิดแหล่งเพาะเชื้อราขึ้นมาได้ เกิดมีอาการคันขึ้นมาเนื่องจากการอับชื้นเพราะการมีต้นขาที่ใหญ่นั่นเอง
วิธีลดต้นขา นั้นไม่ถือว่าเป็นส่วนที่ยากที่สุด สามารถทำได้ง่ายๆ  สามารถทำได้ในที่แคบ ที่ทำงาน หรือที่ที่จำกัดเนื้อที่ได้ มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น การยืน เอามือพิงกำแพง ข้างใดข้างนึง แล้ว ยกขาอีกด้านนึงขึ้นมาเหวี่ยงไปหน้า และ เหวี่ยงไปด้านหลัง

ทำแบบนี้
15-20 ที 3 เซ็ท ทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ทุกสัปดาห์ ก็จะสามารถทำให้ต้นขาของคุณเล็กลงได้ เพียง3-4ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่ขอให้ทำอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะสามารถมีต้นขาที่สวยงามได้นอกเหนือจากการออกกำลังกายเฉพาะส่วนแล้วการนวดก็เป็นอีก
วิธีลดต้นขา ที่ทำให้ต้นขานั้นเล็กลง โดยให้นวดเป็นวงเบาๆ ไปให้ทั่วบริเวณขาของคุณเป็นเวลา 10-20 นาที ทุกวัน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้ต้นขาของคุณเล็กลงได้ แต่เราจะเห็นความแตกต่างของต้นขาที่ลดลงได้ไม่เท่าการออกกำลังกายเฉพาะส่วน
วิธีลดต้นขาจึงเป็นวิธีการช่วยเสริมวิธีการออกกำลังกายในเบื้องต้นนั่นเอง และข้อดีนอกเหนือจากการได้ลดลงของต้นขาแล้ว วิธีลดต้นขายังสามารถทำให้เซลลูไลท์บริเวณต้นขานั้นน้อยลงด้วย เนื่องจากการนวดนั้นเป็นการขับไล่สารพิษออกจากร่างกาย จึงส่งผลให้เซลลูไลท์นั้นมีขนาดเล็กลงไป  การขัดผิวโดยใช้ไยบวบ ก็เป็นวิธีลดต้นขาเราให้เล็กลง วิธีการให้ทำแบบการนวด โดยใช้ใยบวบแทนการนวด วิธีการนี้ก็เป็นวิธีการที่ง่ายอีกวิธีหนึ่ง
การทานสาหร่ายทะเล มีความเชื่อว่าการรับประทานสาหร่ายทะเลนั้นทำให้ต้นขาเล็กลง เนื่องจากสาหร่ายทะเลมีสารอาหารชนิดหนึ่งซึ่งสารอาหารชนิดนี้อาจส่งผลทำให้ต้นขาเล็กลงได้
การเดิน การเดินนั้นเคยมีความเชื่อผิดๆว่าการเดินมากทำให้ขาใหญ่ แต่จริงๆแล้วการเดินเร็วๆนั้นทำให้ต้นขาของเรากระชับขึ้น และเป็นวิธีลดต้นขาที่ดีอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากการทำงานของกล้ามเนื้อจากการเดินนั้นทำให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นจึงทำให้ไขมันบริเวณนั้นถูกเผาผลาญได้อย่างดี จึงทำให้ต้นขาของเราเล็กลง และดูสวยงามยิ่งขึ้น อย่างไรก็แล้วแต่ การออกกำลังกายก็ควรทำให้พอเหมาะพอดีเพราะการที่ออกกำลังกายมากเกินไป ก็สามารถทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการอักเสบได้
ท่าบริหารและวิธีลดต้นขา

1.ยืนตัวตรง แล้วใช้นิ้วเท้าจิกพื้น พยูงตัวให้สูงขึ้น  หายใจออก ค้างไว้ ลดส้นเท้าลง หายใจเข้า ทำอย่างนี้สลับกันไปเรื่อยๆ 20 ครั้ง 3 เซ็ท2.นั่งบนเก้าอี้ หลังพิงพนักเก้าอี้ ยืดหลังตรง แล้วยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นมาให้เสมอขาในแนวนอน หายใจเข้า ลดเท้าลงตั้งฉากกับต้นขาหายใจออก ทำอย่างนี้สลับกัน 20 ครั้ง 3 เซ็ท3.เอามือพิงกำแพงข้างใดข้างหนึ่ง  แล้วยกขาอีกด้านหนึ่งขึ้น เหวี่ยงออกข้างตัว ยกขาขึ้นมาจนถึงบริเวณสะโพก หายใจเข้า  ค้างไว้แล้วลดขาลง หายใจออก ทำสลับกันอย่างนี้ 20 ครั้ง 3 เซ็ทการบริหารด้านต้นนี้เป็นคำแนะนำ อยากให้ผู้อ่านได้ลองนำไปปฏิบัติดู เพื่อความสวยงามของคุณทุกคน เราจะเห็นได้ว่าไม่เป็นการยากเลยในการที่จะลดสัดส่วนที่ไม่ต้องการ เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินมากมาย

การลดน้ำหนัก อย่างที่เห็นโฆษณาตามสื่อต่างๆมากมาย เพราะนั่นทำให้เสียเงินทองเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายนั้นนอกจากจะได้สัดส่วนที่เราพอใจแล้วนั้น สิ่งที่ได้ตามมาด้วยคือ สุขภาพที่ดีด้วย

ผู้หญิงกับเรื่องสวยๆงามๆเป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้

วิธีเพ้นท์เล็บ ลายน่ารักๆ ง่ายๆ


 
 


1. ใช้สก็อตเทปติดที่กลางเล็บ  ในแนวทแยงเฉียงๆ เหลือส่วนที่จะทาสีไว้ด้านบน



2. ใช้ยาทาเล็บสีชมพูสด ทาเล็บตรงส่วนที่ไม่ได้ติดสก็อตเทปไว้




3. ทาทับ 2 รอบ รอให้สีแห้งสนิทก่อน จากนั้นค่อยๆ ลอกสก็อตเทปออกเลยค่ะ




4. แต้มจุดวงกลมสีขาวลงไปตามใจชอบเลยค่ะ แต่อย่าเยอะไปนะคะ จะดูรก เดี๋ยวจะไม่สวย




5. วาดโบว์สีขาวลงไป ตามรูปเลยค่ะ (ถ้าใช้ภู่กันเบอร์เล็กจะสะดวกกว่าค่ะ)
ไม่ต้องวาดโบว์ทุกเล็บนะคะ เอาแค่บางเล็บพอ เพื่อความเก๋ค่ะ ^^




6. รอให้แห้งสักพัก ทาน้ำยาเคลือบเล็บลงไป แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีแล้วค่ะ




~ แท่นแท้น..เสร็จแล้วค่ะ เล็บลายน่ารักๆ ฝีมือตัวเอง ทำง่ายมากๆ  ลองทำกันดูนะคะ --*




ยังมีวิธีเพ้นท์อีกหลายแบบเลยค่ะ เอาไว้จะมาทยอยลงให้ดูกันนะคะ

ใครเคยเพ้นท์แบบไหน ลองเอามาแลกเปลี่ยนกันก็ได้นะ..

สูตรมาร์คหน้า

มาร์ค สูตร แตงกวา


วิธีทำ ปอกเปลือกแตงกวาลูกเล็ก ๆ หนึ่งลูก เอาใส่เครื่องปั่นจนเป็นเนื้อเนียนนุ่ม กรองเอาแต่น้ำเก็บเอาไว้ จากนั้น เอาน้ำชาเขียวและชาคาโมมายล์อย่างละสองออนซ์กับเจลาตินหนึ่งห่อ ตั้งไฟอ่อนๆ จนเจลาตินละลาย เติมน้ำแตงกวาลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้วเทใส่ภาชนะแก้วเก็บไว้ในตู้เย็นราว 25 นาที จนเริ่มเป็นส่วนผสมข้นๆ นำเอาส่วนผสมนี้มาทาให้ทั่วหน้า ปล่อยให้แห้ง 20 นาที ลอกมาสก์ออก แล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ซับให้แห้ง แตงกวามีคุณสมบัติเป็นแอสตริงเจนต์อ่อน ๆ ที่ทำให้ผิวเย็นลง จึงดีเป็นพิเศษกับผิวอักเสบ เป็นผื่นแดง หรือไหม้แดด


มาร์ค สูตร มะเขือเทศ


วิธีทำ เริ่มด้วยการฝานมะเขือเทศ 1 ชิ้นหนาๆ ถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอเบาๆ ตรงบริเวณที่มีสิวเสี้ยน มะเขือเทศมีวิตามินซี และกรด AHA จะช่วยลอกผิวหน้าที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ หลังจากนั้นจึงค่อยใช้สำลีชุบน้ำเย็น เช็ดมะเขือเทศออกให้สะอาด
 
มาร์ค สูตร ไข่ขาว  
วิธีทำ ตอกไข่ไก่ 1 ฟอง แยกไข่แดงออกเทเฉพาะไข่ขาวลงในถ้วย ใช้ส้อมตีไข่ขาวจนเป็นฟองพอสมควร แล้วใช้แปรงขนนุ่ม จุ่มไข่ขาวทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนไข่ขาวเริ่มจับตัวแข็ง แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
 
มาร์ค สูตร น้ำผึ้ง 
วิธีทำ เริ่มจากล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง จากนั้นใช้ปลายนิ้วแตะน้ำผึ้งลูบไล้บนใบหน้าและลำคอเบาๆ สักครู่ แล้วนวดหน้าด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาประมาณ 5 นาที จนน้ำผึ้งเหนียว นวดต่อไปไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนั้นให้นอนพักศีรษะอยู่ต่ำกว่าระดับปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลมาหล่อเลี้ยงที่ใบหน้าและลำคอได้สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วก็ค่อยๆ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดน้ำผึ้งออกให้สะอาด
 
มาร์ค สูตร แอปเปิล  
วิธีทำ ปอกแอปเปิลแล้วคว้านเอาไส้และเมล็ดออก จากนั้นบดให้ละเอียด ขณะที่บดให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย เมื่อบดจนเข้ากันดีแล้ว นำเอาส่วนผสมนี้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วใช้นมสดเย็นๆ ล้างออก
 
มาร์ค สูตร นมเปรี้ยว 
วิธีทำ สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน ล้างหน้าให้สะอาดก่อนจะเอานมเปรี้ยวที่แช่เย็นจัดพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีหรือนานกว่านั้น แล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ เช็ดออก ตำรานี้จะใช้ได้ผลดีมากในหน้าร้อน เพราะจะช่วยให้ใบหน้าที่ซีดเซียวกลับเปล่งปลั่งขึ้นได้
 
มาร์ค สูตร แตงโม  
วิธีทำ จัดการฝานแตงโมเป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด นำมาแปะให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมหน้าไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น



มาร์ค สูตร น้ำมะนาวและน้ำผึ้ง 
 
วิธีทำ ด้วยการผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น  



นอกจากนั้นยังมี สูตรความงาม ที่หาเจอจาก Pantip อีกเพียบ ตามนี้เลยจ้า(อาจจะซ้ำหรือคล้ายกะข้างบนมะกี้นะ)


สูตรขัดผิวด้วยส้ม 

    1. นำส้มเขียวหวาน (เท่านั้นนะคะ) มาล้างให้สะอาด แล้วปอกเปลือก จากนั้นผ่าตามขวาง
                    แล้วแคะเมล็ดออกจนหมด
    2. ใช้ส่วนของเกร็ดส้มขัดเป็นวงกลมเบาๆ โดยไม่ต้องใช้แรงกด (ถ้ากดแรงไปจะทำให้ผิวมีริ้วรอยได้ง่าย)
                   พอให้ผิวส้มสัมผัสกับผิวเรา เป็นอันใช้ได้ค่ะ
    3. ขัดเบาๆ ประมาณ 15 นาที แล้วทิ้งให้น้ำส้มที่อยู่บนใบหน้าหรือลำตัว แห้ง แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็นจัด



    TiPS
    - ทำเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง เท่านี้ผิวก็จะผุดผ่อง เพราะส้มมี ViT C ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว และช่วยให้เม็ดสี จุดด่างดำ
                 ดูจางลงด้วย
    - เปลือกส้ม สามารถนำมาหั่นเป็นเส้น แล้วนำไปตากแดดจนแห้ง นำมาใช้เป็นยาจุดกันยุงได้อีกด้วยค่ะ


 

สูตรเพื่อผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
   
    ผงขมิ้น + โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
    หลังจากถูสบู่ ให้นำผงขมิ้นที่ผสมกับโยเกิร์ตแล้ว มาทาให้ทั่วตัว ระหว่างทาก็นวดไปด้วย ค่อยๆ ทาวนเป็นวงกลมจนทั่ว
    ทิ้งไว้ 5-10 นาที จากนั้นใช้ใยบวบหรือที่ขัดตัว ผสมครีมอาบน้ำให้เกิดฟองนิดหน่อย แล้วเริ่มขัดทั้งตัวพร้อมกับผงขมิ้น&โยเกิร์ต
    ที่ยังไม่ได้ล้าง โดยขัดจากปลายเท้าขึ้นมาจนทั่วตัว > ล้างน้ำออก จากนั้นทาโลชั่นตามทันที
    ทำ 3 วัน/ครั้ง หรือสัปดาห์ละครั้ง ผิวจะค่อยๆใส และขาวขึ้นเจ้าค่ะ




สูตรเพื่อผิวขาวกระจ่างใส (ฉบับเจ้าสาว)

 

    มะขาม + ผงขมิ้น + นมสด + เกลือ
    1. ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ขัดเบาๆ ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออก
    2. พอกด้วยส่วนผสมที่ 2 (ผงขมิ้น + นมสด + ทานาคาหรือดินสอพอง) ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก


    ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งค่ะ ผิวจะสว่างใสและขาวขึ้นภายใน 1 เดือน


สูตรเพื่อผิวขาว(ฉบับเจ้าสาว) Version 2




    ไพล + นมผงสำหรับเด็กทารก (Ext: เอส26 หรือ เนสเล่)
   
    นำไพลและนมผงมาบดผสมให้เข้ากัน (จะผสมขมิ้นลงไปด้วยก็ได้ค่ะ) แล้วนำมาขัดผิวเวลาอาบน้ำ โดยล้างสบู่ให้สะอาดก่อน แล้วขัดเบาๆ
     ใช้บวบขัดผิว หรือแปรงที่ขนนุ่ม ๆ ก็ได้ค่ะ รับรองผลชัวร์ ๆ ผิวจะสะอาดเนียนและนุ่มมาก ๆ ค่ะ




สูตรสมานผิว (แสนจะง่าย)




    หลังล้างหน้า นำน้ำผึ้งแท้ล้วนๆ มาทาหน้าให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 10 นาทีค่ะ จากนั้นล้างน้ำออกและบำรุงผิวตามปกติ


    TiPS
    ใช้ได้ดีกับผิวแพ้ง่ายและผิวที่อักเสบจากการแพ้ เพราะน้ำผึ้งเป็นตัวประสานผิวที่ดี ช่วยทำให้ผิวหน้าเนียนขึ้น สิวผดต่างๆ จะหายไป
หน้าไม่เป็นขุย เวลาเป็นแผลสด ทำท่าจะมีหนองก็ให้เอาน้ำผึ้งทาทิ้งไว้ หนองจะไม่มีและแผลก็จะแห้งเร็วด้วยค่ะ




สูตรสำหรับผิวหมองคล้ำ




    ขมิ้น + มะขามเปียก
    1. นำมะขามเปียกลงขยำในน้ำอุ่น ใช้กะปริมาณให้ทั่วผิวกาย (1-2 ฝักกับน้ำอุ่นเล็กน้อย) ให้น้ำมะขามมีลักษณะข้นๆ
    2. ละลายผงขมิ้นลงไป ประมาณ 1/4 - 1/2 ช้อนชา (ระวังอย่าให้มากไปนะคะ มิเช่นนั้นอาจกลายเป็นสาวดีซ่าน ไปซะอีก..อิอิ)
    3. คนๆให้เข้ากันค่ะ นำส่วนผสมที่ได้มาพอกผิว อาจใช้ใยบวบขัดผิวเบาๆ ไปด้วย ทิ้งไว้จนแห้งแล้วค่อยล้างออกค่ะ




สูตรสำหรับผิวแห้ง




    น้ำมันมะกอก + เกลือ + ผลสตรอว์เบอรี่สด
    1. ผสมน้ำมันมะกอกกับเกลือ (ควรใช้เกลือเม็ดเล็กๆ หรือเม็ดที่ไม่คม ไม่หยาบจนเกินไปค่ะ เดี๋ยวมันจะบาดผิวเรา) เข้าด้วยกัน
    2. ใส่สตรอว์เบอรี่ที่ใช้ช้อนบี้ๆ บดๆ จนเละแล้วลงไป
    3. คนๆ ให้เข้ากัน ใช้เป็นสครับสำหรับขัดผิวกาย เพื่อให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวสดใส และเต่งตึงขึ้นด้วยค่ะ




สูตรเพื่อผิวเนียน




    ว่านหางจรเข้ 2 ใบ(ใบใหญ่) + ใบชะพลู 10 ใบ + ไข่ไก่ 1 ฟอง
   
    นำว่านหางจรเข้มาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำใบชะพลูที่ล้างสะอาดแล้ว มาหั่นหยาบๆ
     แล้วนำส่วนผสมทั้ง 2 อยางลงเครื่องปั่น  ใส่ไข่ไก่ลงไป...
    ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออก  ผิวหน้าจะเนียน ลื่นขึ้นค่ะ




สูตรลดริ้วรอย




    เนื้อมะละกอสุก + เนื้อฝรั่ง
    1. นำเนื้อมะละกอและฝรั่งมาปั่นรวมกัน (อาจเติมนมสดหรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติลงไปด้วยนิดหน่อย) ปั่นให้พอเละ ๆ ค่ะ
    2. นำส่วนผสมที่ได้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก


    TiPS
    สูตรนี้ไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายนะคะ เพราะมะละกอมันจามียาง อ่ะค่ะ




สูตรสำหรับผิวธรรมดา/ผิวมัน




    เนื้อแตงกวา (ปั่นแยกน้ำ) 1 ถ้วย
    โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
    เมล็ดงา 1 ช้อนชา
    จมูกข้าวสาลี 2 ช้อนโต๊ะ


    นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาทาผิวในลักษณะวนเป็นวงกลม  เมื่อส่วนผสมใกล้แห้ง ค่อยๆ ขัดออกเบาๆ
    เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าออก แล้วล้างตัวด้วยน้ำอุ่น




สูตรไข่ กระชับผิว กระชับรูขุมขน




    1. ล้างหน้าด้วยน้ำนม ช่วยกระตุ้นให้ผิวสดชื่น กระชุ่มกระชวย
    2. ตอกไข่ใส่ชาม แยกส่วนไข่ขาวและไข่แดง ใช้เฉพาะไข่ขาว ทาบนใบหน้า (ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้ง ให้ผสมไข่แดงลงไปเล็กน้อย)
                    ทิ้งไว้ 10 นาที ล้างออก ด้วยน้ำอุ่น
    3. ปิดท้ายด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิว


    TiPS
    ช่วยกระชับผิว กระชับรูขุมขน เฉกเช่นเดียวกับ โทนนิ่งโลชั่น




สูตรการทำ Tropical Fruit Mask




    น้ำสัปปะรดคั้นสด 1 ถ้วย
    มะละกอสไลด์สด 1/2 ถ้วย
    น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ


   1.  นำน้ำสัปปะรดและมะละกอ คนๆ เข้ากันให้ละเอียด เติมน้ำผึ้งเพิ่มลงไป
    2. ล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าให้แห้ง เอาส่วนผสมทาให้ทั่วหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ 5 นาที (ถ้าผิวแพ้ง่าย 2-3 นาทีก็พอจ้า)
    3.ล้างออกด้วยน้ำเย็น ตามด้วยมอยซ์เจอร์บำรุงผิว


    TiPS
    - ควรทำมาสก์นี้ไม่เกิน 1 ครั้งต่ออาทิตย์นะคร๊ะ
    - ผลไม้อุดมไปด้วย AHA ทำให้เส้นสกุนาบาทา (เท้ากา) จางลงได้ด้วย เพราะมีเอนไซม์จากธรรมชาติ ช่วยขจัดผิวที่เสีย
                เมื่อผสมกับน้ำผึ้ง ทำให้ผิวนุ่มขึ้น




สูตรสู้สิว ฉบับแสนง่าย




    1. ปอกเปลือกมะเขือเทศ ฝานเป็นแผ่นๆ เอาเมล็ดออก
    2. นำไปปั่นให้ละเอียด (ถ้าไม่มีเครื่องปั่น จะใช้วิธีขยำจนกระทั่งเนื้อมะเขือเทศเละ ไม่จับเป็นก้อน ก็ใช้ได้เหมือนกัน)
    3. ทาลงบนหัวสิว (ระวังอย่าให้เข้าตา) ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น


    TiPS
    - ในกรณีที่คุณเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย หรือยังไม่แน่ใจว่าจะแพ้หรือเปล่า ให้ลองเทสต์กับท้องแขนก่อน ถ้ามีอาการแสบผิดปกติ
                 ให้ล้างออกทันทีและไม่ควรใช้กับผิวหน้า
    - กรด" ในมะเขือเทศ จะช่วยทำความสะอาดรูขุมขน และลดการเกิดสิว




สูตรรักษาฝ้า


    คั้นน้ำมะขามเปียก ให้ค่อนข้างใสสักหน่อย ตั้งไฟอ่อน รอจนสุกจึงใส่น้ำผึ้งลงไปคนให้เข้ากัน  ขั้นตอนนี้ต้องทำพร้อมกัน คือมือหนึ่งเท
    อีกมือก็คนให้ทั่ว นำมาทาหน้าวันละ 1 ชั่วโมง ช่วยรักษาฝ้า และทำให้ผิวหน้านวลใสขึ้นค่ะ


สูตร Cleanser สำหรับทุกสภาพผิว


    โยเกิร์ต 1/2 ถ้วย
    น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำมะนาว 1 1/2ช้อนโต๊ะ (คั้นสด ๆ )


    นำส่วนผสมทั้งหมด มาผสมให้เข้ากัน พอกให้ทั่วหน้าทุกเช้าและก่อนนอนแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้า
    ได้อย่างล้ำลึกและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอีกด้วยค่ะ




สูตรมาร์คสิวเสี้ยน


    ถั่วเขียวต้ม 2 ช้อนโต๊ะ
    สตรอเบอร์รี่ผลโต 2 ผล (ผลเล็ก 4 ผล)
    นมเปรี้ยว 1/2 ช้อนโต๊ะ


    1. ต้มถั่วเขียวให้สุกกำลังดี แล้วตักใส่ถ้วยใบเล็กๆ ไว้
    2. ใช้น้ำอุ่นๆ ล้างหน้าให้สะอาดด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้า เช็ดซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ ใช้หมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำคลุมศีรษะไว้ หรือใช้ที่คาดผมเพื่อเก็บเส้นผมไม่ให้หล่นปรกใบหน้า
    3. ใช้ช้อน หรือส้อมบดๆ ยีๆ ถั่วเขียวต้มสุกและสตรอเบอร์รี่ให้ละเอียด นำทั้ง 2 มาผสมกัน ตีๆ ยีๆ ให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เติมนมเปรี้ยวผสมลงไป 1 ช้อนชาครึ่ง หรือ 1/2 ช้อนโต๊ะ ถ้ามีเครื่องปั่นให้ปั่นถั่วเขียวต้ม และสตรอเบอร์รี่ และนมเปรี้ยวพร้อมๆ กัน แต่ไม่ต้องให้ละเอียดมากนัก
    4. นำส่วนผสมที่ได้มา ทาให้ทั่ว ผิวหน้า เว้นรอบๆ ริมฝีปากและรอบดวงตาไว้ พอกทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที และล้างทำความสะอาดหน้าด้วยน้ำอุ่นๆ กับสบู่หรือโฟมล้างหน้า


    TiPS
    สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยน กระ ฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยต่างๆ ที่เป็นรอยยับย่น มาร์คสูตรนี้ช่วยให้ใบหน้าขาวนวล เกลี้ยงเกลา
   ใสสะอาดอย่างน่าอัศจรรย์ หมั่นทำเป็นประจำทุกๆ วันกันนะคร๊า




สูตรมาร์คหน้าเพื่อผิวกระชับ


    มันฝรั่งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำอุ่น


    1. เทน้ำอุ่นช้าๆ ลงในถ้วยที่ใส่มันฝรั่งป่นและคนให้เข้ากันจนข้น
    2. ก่อนมาส์กหน้าให้ใช้ครีม หรือน้ำมันเบบี้ออยล์เล็กน้อยทาใบหน้าบางเบาให้ทั่ว จากนั้นใช้พู่กันจุ่มมันฝรั่งข้นทาทั้งใบหน้าและลำคอ
      (ยกเว้นรอบดวงตาและลำคอด้านหลัง)
    3. ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ใช้ผ้าอุ่นชื้นประคบใบหน้าให้มาส์กอ่อนตัว(จนกว่ามันฝรั่งจะนิ่ม) แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น


    TiPS
    การมาส์กหน้าด้วยมันฝรั่งป่นจะช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้เลือดไหลเวียนดีและทำให้ผิวกระชับเต่งตึง แต่จะทำให้ผิวแห้ง ดังนั้นจึงไม่ควรมาส์กหน้า
    ด้วยมันฝรั่งบ่อยเกินไป




สูตรขัดผิว (เค้าว่า...เป็นสูตรของป้าศรีเวียงค่ะ)


    นมผง 3 ช้อนโต๊ะ
    * นมผงก็ใช้นมผงสำหรับชงให้ทารกดื่ม ที่มีขายทั่วไปนะคะ ซื้อแบบซองขนาดเล็กสุดมาก็ได้ เพราะน่าจะใช้ได้นานมาก
                 ผงขัดตัว 2 ช้อนโต๊ะ
    * ผงขัดตัว เราใช้ผงขมิ้นขัดตัว ที่มีอยู่แล้ว เป็นแบบกระปุกๆ ละ 30 บาท
                 น้ำมะนาว
    * น้ำมะนาว ปริมาณน่าจะเริ่มจากน้อยๆ ก่อนนะคะ เพื่อว่าเวลาทาจะได้ไม่แสบ ถ้าทำไปแล้วรู้สึกเฉยๆ ก็เพิ่มประมาณได้ค่ะ
                 สำหรับเราใช้ครั้งแรกครึ่งลูก ก็ไม่แสบ คราวหน้าจะลองใส่หนึ่งลูกดู


    น้ำเปล่า


    1. ผสมนมผงกับผงขัดตัวให้เข้ากัน ใส่น้ำมะนาว และเติมน้ำเปล่าทีละน้อย และผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อโคลน
    2. เสร็จแล้วก็ทาเลยค่ะ ทาทั้งแขน ทั้งขา (แนะนำว่าทำในห้องน้ำดีกว่า จะได้ไม่เลอะเทอะ) อย่าทาหนาเกินไป ตอนขัดจะขัดยาก
                    ทิ้งไว้ให้หมาดเกือบแห้ง
    3.แล้วก็ใช้ฝ่ามือนี่แหละคะ ขัด ขัด ขัด เข้าไป บางคนอาจะขี้ไคลหลุดออกมา ก็อย่าตกใจละคะ มันจะหลุดออกมาเป็นก้อนๆ ผงๆ
                ก็ขัดให้ทั่วบริเวณที่ทาไว้
    ....หลังจากขัดเสร็จจะรู้สึกว่าผิวลื่นขึ้น มันเงาขึ้น เสร็จแล้วก็ทาครีมบำรุงทั้งตัว..เรียบร้อยค่า




สูตรแอสไพริน(ยอดนิยม)

    แอสไพริน แบบที่ไม่เคลือบเม็ด 5-6 เม็ด
    โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1-2 ช้อนโต๊ะ (กะให้พอกับการพอกหน้าเรา)
    น้ำผึ้ง


    นำแอสไพรินมาบดให้ละเอียด แล้วเอาไปผสมกับโยเกิร์ต เอาน้ำผึ้งใส่นิดหน่อย คนให้เข้ากัน แล้วก็เอามาพอกหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที
    พอแห้งก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น จากนั้นซับหน้าให้แห้ง


    TiPS
    สูตรนี้เหมาะสำหรับผิวหน้ามันมากค่ะ (จะใช้แอสไพรินบดอย่างเดียวก็ได้ค่ะ โดยใช้น้ำสะอาดเหยาะๆ ลงไปพอให้ข้น แล้วพอกหน้าได้เลย)
    สูตรนี้เวิร์คสุดๆ ค่ะ




สูตรกำจัดขน (แว็กซ์ทำเอง)


    น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ
    น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ


    1. ผสมส่วนผสมทั้งสองเข้าด้วยกัน ตั้งไฟอ่อน คนไปเรื่อยจนส่วนผสมกลายเป็นสีเหลืองทอง ยกออกจากเตาแต่ต้องคนต่อไปเรื่อยๆ จนข้นเหนียว มีสีสันและความหนืดดั่งน้ำผึ้ง ปล่อยให้แวกซ์เย็นลง หากเข้มข้นมากเกินไปจนแข็งกลายเป็นคาราเมล ให้เติมน้ำมะนาวลงไปอีก
    2. ตัดผ้าฝ้ายเป็นแผ่นยาว ใช้มีดปาดแวกซ์ทาบริเวณที่ต้องการกำจัดขนไปในทิศทางเดียวกับที่ขนขึ้น (ทาลง) จากนั้นใช้แผ่นผ้าปิดบริเวณที่ทาให้แน่นแล้วดึงขึ้นในทิศทางที่สวนกับการทา แรกๆ อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยแต่ทำไปเรื่อยก็จะชิน
    3. เปลี่ยนผ้าแถบผืนใหม่เมื่อแวกซ์ติดขนหนาหลายชั้น สามารถใช้แวกซ์นี้บริเวณแขน ขา รักแร้ (ซึ่งอาจจะต้องให้คนใกล้ชิดช่วยทำ) สำหรับใบหน้าควรระวังที่สุด เพราะไม่ควรดึงทึ้งผิวที่อ่อนแอและบอบบาง ทั้งน้ำตาลและมะนาวต่างช่วยให้ผิวนุ่มเนียน การทำแวกซ์อาจทำให้เกิดขนคุดได้ ควรขัดผิวอย่างเบาๆ ด้วยหินขัดตัวระหว่างอาบน้ำจะช่วยลดขนคุดได้


    TiPS
     สูตรมหารานีแห่งอินเดีย ปกติขนตามเรียวขาจะงอกขึ้นมาใหม่ภายใน 6 สัปดาห์ วันเวลาที่ผ่านมาไปเมื่อแวกซ์ขนบ่อยๆ
      รากก็จะอ่อนแอไม่เจริญเติบโต สำหรับสูตรแวกซ์ทำเองนี้จะมีจำนวนมากเพียงพอสำหรับขาทั้งสองข้างหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนของน้ำมะนาว
      อากาศ ความชุ่มชื่นของน้ำตาลและระดับความร้อนที่ใช้




สูตรสาหร่ายทะเล


    ว่านหางจระเข้ 2 ใบ
    สาหร่ายทะเล(ปริมาณพอควร)


    1. นำว่านหางจระเข้มาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเอาเฉพาะวุ้นใสๆข้างใน จากนั้นเป็นชิ้นเล็กๆ
    2. นำมาปั่นรวมกับสาหร่ายทะเลที่แช่น้ำจนนิ่มและหมดสิ่งสกปรกจนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว
    3. นำมาพอกกับหน้าที่สะอาดแล้วก่อนเข้านอน โดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด


    TiPS
    ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง จะรู้สึกว่าผิวหน้าสดชื่นและเต่งตึงขึ้นด้วยภายในเวลาไม่ถึงเดือน




สูตรสครับขัดผิว


    ผงสมุนไพรที่มีส่วนผสมของขมิ้นไพร และการบูร
    น้ำผึ้งแท้
    น้ำมะขามเปียก
    โยเกิร์ตรสธรรมชาติ


    1. ผสมผงสมุนไพรกับน้ำผึ้งใน+++ส่วนที่พอเหมาะ เติมน้ำมะขามลงไปนิดหน่อย แล้วนำส่วนผสมดังกล่าวมาขัดตัว 10-15 นาที ล้างออก
    2. หลังจากล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วพอกตัวด้วยโยเกิร์ตทิ้งไว้อีกประมาณ 15-20 นาที
    ผงสมุนไพรจะช่วยบำรุงผิวพรรณ น้ำผึ้งและโยเกิร์ตช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและกระชับขึ้น น้ำมะขามมี AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวทำให้ผิวขาวขึ้นและลดจุดด่างดำ


    TiPS
    หลังใช้น้ำมะขามขัดตัวแล้ว ช่วงแรกๆ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเพราะผิวจะไวต่อแสง เป็นสาเหตุให้เกิดเม็ดกระได้ง่ายนะคร๊ะ




สูตรลอกสิวเสี้ยน



- ไข่ขาว
- พิมเสน
- สำลี ชนิดแผ่น
นำไข่ไก่เอาแต่ไข่ขาว ใส่ด้วย ใส่พิมเสนลงไปนิดหน่อยมันจะดับกลิ่นคาว แล้วทำให้หน้าเย็นๆ แต่อย่าใส่เยอะนะ (เดี๋ยวจะเย็นจนทนไม่ไหว อิอิ)
คนให้เข้ากัน ลอกสำลีให้บางๆ จากนั้นก็เอาไข่ขาวที่เตรียมไว้ทาหน้ารอบนึง แปะทับด้วยสำลี เสร็จแล้วทาไข่ขาวทับสำลีให้ชุ่ม ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
แล้วลอกจากคางขึ้นมาแล้วล้างออก แล้วทีนี้สังเกตุที่สำลีที่ลอกออกมาดูดิ อืม...มันชั่งเยี่ยมไปเลย




สูตรผิวนุ่ม


Baby Oil
เกลือ ปรุงทิพย์


นำทั้ง 2 อย่างมาผสมกันถ้าต้องการให้สครับเยอะ ๆ ก็ใส่เกลือปรุงทิพย์ไปเยอะ ๆ นะคะ หลังจากอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายแล้ว
ก้อขัดให้ทั่วตัวเลยค่ะ ขัดวน ๆ ทิ้งไว้สัก 5 - 10 นาที ค่ะ ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง (ถ้าใครผิวมันทำอาทิตย์ละครั้งก็ได้ค่ะ)
ผิวจะนุ่มขึ้นค่ะ

ดูแลเล็บให้สวย

วิธีดูแลเล็บมือ ให้สวยงาม สุขภาพดี

เล็บมือ
         พฤติกรรมบางอย่างของสาว ๆ อาจทำให้เล็บเกิดความเสียหายและหมดสวยได้ คู่หูเดินทางขอแนะนำเทคนิค ดูแลมือและเล็บมาฝากกัน
           1. ทะนุถนอมเล็บไม่ให้ได้รับอันตราย เช่น อย่าใช้เล็บเป็นเครื่องมือต่างไขควง และไม่ใช้เล็บหยิบจับของ แต่ใช้ปลายนิ้วแทน
           2. ควรสวมถุงมือระหว่างการทำงาน เพระาสารเคมีที่มีอยู่ในผงซักฟอก สบู่ หรือน้ำยาทำความสะอาด อาจทำให้เล็บเปราะบาง ฉีกขาดได้ง่าย รวมถึงอาจจะทำให้ผิวหนังข้างเล็บอักเสบ
           3. ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเล็บอย่างถูกวิธี เช่น เมื่อทาน้ำยาเคลือบเงาเล็บแล้ว ต้องทิ้งไว้ให้แห้งนาน 15 นาที เพราะหากเล็บที่ยังไม่แห้งไปถูกผิวหนังอาจทำให้ระเคืองได้
           4. ตัดเล็บให้ถูกวิธีเพื่อป้องกันเล็บเท้าขบ โดยควรตัดเล็บเท้าให้ปลายเรียบเสมอกัน ไม่ตัดเล็บให้โค้งมากจนเกินไป เพื่อไม่ให้เล็บที่งอกออกมาใหม่แทงเข้าไปในหนังหุ้มเล็บข้าง ๆ และไม่ควรใส่รองเท้าที่คับหรือมีหัวแหลมเรียวเกินไป รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่รองเท้าส้นสูง เพื่อมิให้น้ำหนักทิ้งมาบนเล็บมากเกินควร
           5. ดูแลเล็บไม่ให้แห้งเกินไป เพราะจะทำให้เล็บเปราะและแตกง่าย ก่อนนอนจึงควรแช่มือลงในน้ำอุ่นสัก 10-15 นาที ซับน้ำให้แห้งหมาด ๆ แล้วทาครีมให้ความชุ่มชื้นที่มือและเล็บ
           ทาครีมบำรุงมือและเล็บเป็นประจำก่อนเข้านอน จากนั้นสวมถุงมือผ้าฝ้าย เพื่อช่วยคงความชุ่มชื้นจากครีมบำรุงให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวมือได้อย่างเต็มที่

10 วิธีดูแลเล็บมือ - เล็บเท้า
อาหาร-ความสะอาด ช่วยได้



ถ้าพูดถึงแฟชั่นแล้ว ทุกส่วนในร่างกายของเราก็มีสิทธิที่จะอัพเดทแฟชั่นได้เท่า ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นผม ที่ต้องคอยตามเทรนด์สี ทรง หรือจะเป็นร่างกาย ที่มักถวิลหาเสื้อผ้าที่ทันสมัย แบบ สีที่ไม่เอาท์ เท้า ก็ยังต้องการรองเท้าแบบที่ใส่สบาย แต่ไม่ตกเทรนด์ หรือแม้กระทั่งเล็บ ก็ยังต้องการการแต่งแต้มสีสัน เพื่อความสวยงาม

และวันนี้เราก็มี 10 วิธีการดูแลมือ เท้า หลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน และเล็บ ที่ไม่ค่อยได้หายใจเมื่อคุณแต่งแต้มสีสันลงไป

1. เราต้องทำความสะอาดมือ เท้า และเล็บ เสียก่อน โดยการใช้แปรงขนนุ่ม กับสบู่อ่อน ๆ ถูเบา ๆ บริเวณมือ เท้า และเล็บ อย่าลืมที่จะถูใต้เล็บด้วยละ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่มีเชื้อโรคเข้าไปสะสมอยู่มากที่สุด หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

2. ควรตัดเล็บมือเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง ส่วนเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ไม่ควรตัดเล็บจนชิดบริเวณผิวหนังส่วนปลายนิ้วเกินไปเพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเป็นแผลแล้วยังทำให้พื้นที่หน้าเล็บสั้นลงได้ และถ้าตัดชิดขอบลึกลงไปเรื่อยๆ จะดูเหมือนเล็บของคนที่ชอบกัดเล็บซึ่งไม่สวยงาม สำหรับเล็บเท้าควรตัดในแนวตรงเป็นทรงเหลี่ยม ไม่ควรตัดเล็บลงซอกข้างเล็บมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดเล็บขบได้

3. รับประทานที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ เพราะเล็บก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องการสารอาหารเพื่อการเจริญเติบโตเหมือนกัน ส่วนสารอาหารที่เล็บต้องการ เช่น โปรตีน วิตามินเอ ซี และอี รวมถึงแร่ธาตุสังกะสีที่มีอยู่ในอาหารทะเลและเมล็ดธัญพืช

4. นอกจากสารอาหารแล้ว การทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน ยังช่วยป้องกันผิวมือไม่ให้หยาบกระด้าง โดยเฉพาะหลังจากที่มือต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการป้องกันก็คือ ในช่วงที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ก็ให้สวมถุงมือทุกครั้ง

5. นวดนิ้วมือและเท้าด้วยครีมบำรุงหรือน้ำมันบำรุงผิว ประมาณ 3-5 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณมือและเท้า ควรนวดบริเวณปลายนิ้วและเล็บด้วยเพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมสร้างเล็บที่อยู่บริเวณโคนเล็บ ถ้าไม่สะดวกระหว่างวันสามารถทำได้ในช่วงก่อนเข้านอนแล้วสวมถุงมือผ้าและถุงเท้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซึมซาบสู่ใต้ผิวของน้ำมันหรือครีมบำรุง หรือจะใช้สครับสำหรับนวดเท้า เพื่อการไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบัน สครับสำหรับมือและเท้าก็หาซื้อได้ง่าย และสามารถทำได้เองที่บ้าน เสียเวลาไม่นาน แต่รับรองว่าสบายผิวแน่นอน

6. เนื่องจากธรรมชาติสร้างเล็บให้ออกมาในรูปแบบของแผ่นโปรตีนชนิดแข็ง และให้ทำหน้าที่ปกป้องปลายประสาทที่มีอยู่มากบริเวณปลายสุดของร่างกายไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือน อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยในการหยิบจับ และแกะเกา ส่วนหน้าที่งัดแงะของแข็ง หรือว่าใช้เป็นไขควงในการหมุนนั่นหมุนนี่ ผิดวัตถุประสงค์นะคะ อาจจะทำให้เล็บฉีกได้

7. สำหรับสาว ๆ ที่ชอบทาเล็บเป็นชีวิตจิตใจ เรียกว่าไม่ยอมให้เล็บได้หายใจเลยแล้วละก็ ฟังทางนี้ ควรทาน้ำยารองพื้นเล็บก่อนทาสี เพื่อป้องกันการเกิดสีที่ไม่พึงประสงค์หลังจากการทาเล็บได้ระยะหนึ่ง และควรทาน้ำยาเคลือบเงาเล็บเพื่อความวาวและติดทนนาน แต่ไม่ควรทาเล็บสีเข้มติดต่อกันนานๆ ควรสลับสีอ่อนบ้าง และควรหยุดพักการทาเล็บเมื่อเห็นว่าสภาพเล็บดูแห้งหรือเกิดสีผิดปกติ

8. ในการเลือกซื้อน้ำยาทาเล็บ ควรคำนึงถึงการเลือกสีให้เหมาะสม ทั้งกับสีผิว โอกาสที่ใช้ สีเสื้อผ้า เครื่องสำอางและบุคลิกของตัวเอง

9. ควรศึกษาอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ เช่น วันหมดอายุ หรือสังเกตสภาพของผลิตภัณฑ์ว่ายังมีคุณภาพดีหรือไม่ โดยทั่วไปอายุของเครื่องสำอางเล็บอยู่ที่ประมาณ 3 ปี หรือดูจากลักษณะการแยกตัวของสีหากหมดอายุแล้วไม่ควรใช้เด็ดขาด

10. ในส่วนของเท้าก็ต้องการการดูแลเช่นกัน การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปร่างเท้าของเราก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาเท้าให้มีสุขภาพดี ซึ่งในการเลือกซื้อรองเท้านั้น เราควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่พอดี ไม่คับ หรือหลวมจนเกินไป เพราะการเสียดสีในขณะที่เดินนานๆ จะทำให้ผิวเท้าเกิดหนังที่แข็งด้าน และการใส่รองเท้าที่คับเกินไปบริเวณปลายเท้าอาจเป็นสาเหตุให้เกิดเล็บขบ เวลาที่เหมาะสมในการเลือกซื้อรองเท้าคือช่วงกลางวันที่เท้าได้เดินจนขยายตัวแล้ว และหลังจากที่ใส่รองเท้าส้นสูงมาตลอดทั้งวัน หลังเลิกงาน ลองแช่เท้าในน้ำอุ่นสัก 10-15 นาที จะช่วยผ่อนคลายอาการเมื่อล้าที่เท้าได้ค่ะ

และนี่ก็คือ 10 วิธีการดูแลมือ เท้า และเล็บของคุณ ให้ดูมีสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา

ดูแลเล็บให้สดใสดูสุขภาพดี

เล็บ

มาดูแลเล็บให้สดใสดูสุขภาพดี น่ามองกันดีกว่า (HAIR WORLD)

           เริ่มตั้งแต่การทำความสะอาดเล็บ คุณควรล้างมือและเล็บด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ แล้วใช้แปรงขนนุ่มขัดตามซอกเล็บเบา ๆ เมื่อสะอาดดีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดหมดจด หลังจากนั้นชโลมครับบำรุงมือและเล็บ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและเล็บของคุณ

           แต่ถ้าคุณต้องการที่จะตัดเล็บ ขอแนะนำเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการตัดเล็บ นั่นก็คือ หลังจากการอาบน้ำ การล้างจาน หรือแม้กระทั่งการซักผ้า (หากคุณยังนิยมซักด้วยมืออยู่) เพราะช่วงเวลาหลังจากนี้ เล็บจะมีความอ่อนนุ่ม ง่ายต่อการตัดแต่ง ทั้งนี้ หากคุณไม่ได้ทำกิจวัตรเหล่านั้นก็สามารถนำเล็บไปแช่ในน้ำอุ่น ทิ้งเวลาประมาณ 5 นาที ก็สามารถลงมือตัดได้เลย

           การตัดเล็บที่ถูกวิธีควรตัดให้มีความโค้งมนไปตามนิ้วมือ ส่วนเล็บเท้าควรตัดให้เป็นแนวตรงมากที่สุด เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย และความสกปรกตามซอกเล็บ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดเล็บขบได้ง่าย แต่ก็ไม่ควรตัดจนสั้นชิดกับเนื้อมากเกินไป อีกทั้งหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุต่าง ๆ ไปงัดแงะขอบเล็บ หรือจมูกเล็บ เพราะอาจจะเกิดบาดแผลและมีการอักเสบขึ้นมาได้

           เมื่อเสร็จขั้นตอนการตัดแล้ว ขาดไม่ได้อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญก็คือการตะไบเล็บ ควรเริ่มตะไบจากขอบเล็บเข้าไปหาปลายเล็บ หากเป็นตะไบที่ทำมาจากเหล็ก ควรตะไบให้ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ควรถูกลับไปกลับมา เพราะอาจจะทำให้เล็บเกิดฉีดหักหรือเป็นเสี้ยนได้ แต่หากคุณใช้ตะไบที่ทำมาจากเซรามิกคุณสามารถตะไบให้สวนทางไปมาได้

           เห็นวิธีการทำกันแล้วเชื่อว่าคุณก็สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ใส่ใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อที่คุณจะได้มีเล็บที่สวย สะอาด และที่สำคัญต้องรับประทานอาหารให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ แล้วคุณก็จะมีทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวที่ดีอีกด้วย

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

เคล็ดลับการถอนขนคิ้วแบบ step by step


แต่งหน้า




           คิ้วเป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งของโครงหน้า ที่สาว ๆ หลายคนมักมองข้ามและไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไรนัก อาจเพราะเป็นเพียงองค์ประกอบเล็ก ๆ บนใบหน้า ต่างจากส่วนสำคัญอื่น ๆ อย่างผิวหน้า ริมฝีปาก หรือดวงตา ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญในการแต่งหน้า คิ้วจึงโดนกลบความโดดเด่นไปเสียหมด แต่ความจริงแล้ว คิ้วนี่เอง ที่เป็นหนึ่งในตัวกำหนดองค์ประกอบ ของหน้า ให้ใบหน้าดูได้สัดส่วน สดใส เกลี้ยงเกลา และทำให้ดวงตาดูโตขึ้นได้ด้วย แหม ได้ฟังแบบนี้แล้ว สาว ๆ ที่ไม่ค่อยได้จัดการตกแต่งคิ้วด้วยตัวเอง คงอยากจะลงมือทำขึ้นมาซะตอนนี้เลยทีเดียว วันนี้เราเลยนำวิธีการจัดแต่งขนคิ้วด้วยการถอนมาฝากกันค่ะ สำหรับสาว ๆ ที่กลัวการกันคิ้วด้วยใบมีดโกน เอาล่ะ ลองมาดูวิธีการจัดแต่งขนคิ้วด้วยการถอนไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ


 1. อยู่ในที่มีแสงสว่างเพียงพอ


           ก่อนจะลงมือถอนขนคิ้ว เปิดหน้าต่าง หรือเปิดไฟ ให้ห้องสว่างไสวเพียงพอที่จะเห็นขนคิ้วได้ชัดเจน สำรวจคิ้วของตัวเอง รวมทั้งกะดูว่า จะต้องแต่งหรือถอนส่วนไหนบ้างเพื่อให้คิ้วได้รูปทรงสวยงาม ทั้งนี้อย่าได้ลองถอนขนคิ้วคิ้วในห้องที่มีแสงไม่เพียงพอเด็ดขาด เกิดคิ้วแหว่งขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะ


 2. กำหนดแนวการถอนขนคิ้ว


           คิ้วที่โก่งสวยได้รูป หัวคิ้วควรอยู่ในแนวเดียวกับแนวหัวตา ส่วนจุดสูงสุดของคิ้วที่โค้งขึ้นไปนั้น ควรอยู่ตรงกับแนวขอบตาดำด้านนอก ในขณะที่หางคิ้วสิ้นสุดตรงแนวเส้นตรง ที่ลากผ่านจากปีกจมูกข้างเดียวกับคิ้วขึ้นไปหาหางตา ทั้งนี้สาว ๆ สามารถใช้ไม้บรรทัดหรือแปรงแต่งหน้าทาบกับใบหน้าดู เพื่อเป็นการกะเกณฑ์ดูก็ได้ค่ะ


 3. ประคบน้ำแข็ง


           ก่อนที่จะลงมือถอนขนคิ้วเพื่อจัดแต่งให้ได้รูปทรง ให้ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งประคบที่คิ้วเสียก่อน ความเย็นจะช่วยให้เกิดอาการชาเฉพาะที่ ทำให้ไม่เจ็บนักยามที่ถอนขนคิ้วค่ะ


 4. เล็มขนคิ้ว


           ก่อนจะลงมือถอน หากคุณเป็นคนที่มีขนคิ้วค่อนข้างยาว ให้ใช้กรรไกรเล็ก ๆ เล็มปลายขนคิ้วออกบ้าง นอกจากจะทำให้คุณเห็นเส้นขนชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ขนคิ้วดูเรียงตัวเป็นระเบียบมากขึ้นด้วย


 5. แปรงขนคิ้ว


           อีกหนึ่งขั้นตอนก่อนลงมือถอนกันจริง ๆ จัง ๆ ให้ใช้แปรงปัดคิ้ว แปรงขนคิ้วให้เรียงตัวเป็นระเบียบ เพื่อช่วยให้คุณเห็นแนวขนคิ้วได้ชัดเจน 


 6. ถอน 


           ในระหว่างการถอน การใช้มือข้างหนึ่งดันหน้าผากบริเวณเหนือคิ้วให้ตึง จะช่วยให้ถอนได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเจ็บน้อยลงด้วย นอกจากนี้แหนบที่ใช้ในการถอนก็สำคัญ เลือกใช้แหนบที่สามารถจับเส้นขนได้ดี และหากเป็นไปได้ การใช้กระจกแบบส่องขยาย ก็จะทำให้การถอนขนคิ้วเป็นไปได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ


 7. ระวังไม่ให้คิ้วโก่งเกินไป


           คิ้วโก่งแบบที่เฉียงขึ้นไปมาก ๆ แทนที่จะทำให้หน้าตาดูสดใส กลับทำให้ดูเหมือนกำลังโกรธหรือไม่พอใจใครอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นระวังอย่าเผลอถอนจนเพลินมือนะคะ ระหว่างการถอนอย่าลืมพักมือ แล้วตรวจดูด้วยว่าคิ้วได้รูปทรงตามที่ต้องการแล้วหรือยัง 


 8. ถอนขนบริเวณเหนือและใต้คิ้ว


           หลังจากถอนขนคิ้วจนได้รูปแล้ว สาว ๆ บางคนที่มีขนคิ้วค่อนข้างดกจะมีไรขนอ่อน ๆ เป็นแนวบริเวณเหนือและใต้คิ้วด้วย ถ้าอยากได้ลุคที่ดูเนี้ยบและเกลี้ยงเกลาจริง ๆ อย่าลืมถอนไรขนอ่อน ๆ พวกนี้ออกด้วย ทั้งยังช่วยให้ขนที่ขึ้นมาใหม่ครั้งต่อไป ขึ้นมาตามแนวเดิม มองเห็นง่ายและทำให้ถอนง่ายขึ้นด้วยค่ะ


 9. ถอนอย่างระมัดระวัง


           การถอนขนคิ้ว ให้ใช้แหนบค่อย ๆ ดึงทีละเส้น และดึงใกล้ ๆ โคนขนจะทำให้ถอนง่ายกว่า รวมทั้งระวังอย่าหนีบเอาเนื้อของตัวเอง หากพลาดหนีบเนื้อจนช้ำหรือเลือดออก ให้ล้างด้วยน้ำเย็นแล้วประคบเย็นทันที เพื่อบรรเทาอาการบวมแดงที่จะตามมาภายหลัง


 10. ล้างน้ำ


           หลังจากถอนขนคิ้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว ล้างหน้าล้างตาและบริเวณคิ้วด้วยน้ำสะอาด เป็นการทำความสะอาดผิวและกระตุ้นรูขุมขนให้กระชับขึ้นด้วย


 11. ปลอบประโลมผิวด้วยทีทรีออยล์


           หลังการถอน ใช้คอตตอนบัดแตะทีทรีออยล์แล้วทาบริเวณคิ้วที่เพิ่งได้รับการถอนไป เป็นการปลอบประโลมและบำรุงผิวที่ถูกรบกวนจากถอนนั่นเองค่ะ

           เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับการถอนขนคิ้วแบบ step by step ทำตามได้ไม่ยากเลย หากใครที่ยังไม่เคยถอนคิ้ว และเพิ่งลงมือเป็นครั้งแรก หากยังไม่มั่นใจลองให้ช่างที่ร้านเสริมสวยกันคิ้วให้ก่อน หลังจากนั้นจึงกลับมาถอนเล็มด้วยตัวเองในครั้งต่อไปก็ได้ค่ะ ส่วนใครที่เผลอถอนเพลินเสียจนคิ้วแหว่ง ระหว่างรอขนคิ้วที่จะขึ้นมาแทนที่ คงต้องใช้ดินสอเขียนคิ้วเติมส่วนที่แหว่งไปให้เต็มสักพักก่อนนะคะ ส่วนใครที่ประสบความสำเร็จในการถอนและจัดแต่งขนคิ้ว ก็จะพบว่าพบใบหน้าดูสดใสขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ